ผู้มีชื่อเสียงใช้"คำว่าการบ้าน"
"เมื่อคืน คุณทำการบ้านแล้วหรือยัง" ~ รหัสย่อ "หมัก"
"ผมนะ ทำการบ้านมาดีแต่ไม่มีโอกาส" ~ รหัสย่อ "อภิเสียบ"
การบ้าน(EN : homework, assignment ไทย: การตายที่บ้าน) คือเศษกระดาษหรือชิ้นงานที่คุณครูให้นักเรียนมา ในเวลาว่างจัดที่บ้าน เลยให้งานนักเรียนมาทำ เพื่อให้ดูเหมือนว่าตัวเองตามไปสอนนักเรียนที่บ้าน และเป็นข้ออ้างในการเก็บคะแนน
ต้นกำเนิด "การบ้าน"
การบ้านในภาษาอังเกรียน(กฤด) (Homework)นั้น มีต้นกำเนิดมาจากภาษากรี๊ด(กรีก)โบราณคำว่า hoemwerk ที่มีความหมายว่า "ความตายจากการทรมาน" และถูกพัฒนาขึ้นมาอีกจนกลายเป็นเครื่องมือในการทรมานของพวกฝรั่งมังค่าในยุคกลาง อย่างไรก็ตาม คนไทยนั้นแปลจากภาษาปะกิตมาตรงตัวว่า "งานที่บ้าน" และเพี้ยนมาเป็นการบ้าน จนทุกวันนี้
ลักษณะของการบ้าน
ลักษณะของการบ้านคือ ต้องมีน้ำมากกว่าเนื้อ เพราะคนทำการบ้านจะต้องยุ่งวุ่นวายกับการอธิบายต่างๆนานา อย่างไรก็ตาม การบ้านสามารถจะมาจากการเดามั่วๆ ในหลายๆส่วนแล้วเขียนประกอบเข้าด้วยกันเพื่อให้มีจำนวนเยอะๆ ทรมานสายตาคนอ่านได้
การบ้านจะถูกจ่ายให้นักเรียนทุกๆวัน เพื่อเติมข้อมูลผิดๆใส่สมองนักเรียน มีไว้เพื่อเบียดเบียนเวลาว่างของนักเรียน ไม่ให้มีเวลาว่างทำอย่างอื่น ไม่เปิดโอกาสได้ใช้ความคิดสร้างสรรค์หรือได้
เรียนรู้สิ่งอื่นที่มีคุณค่า
บางคนหากิจกรรมอื่นๆทำเพื่อหลีกหนีปัญหาการบ้าน
ความจริงของการบ้าน
จับกังแบกหาม
เป็นการทรมานเหยื่อ ด้วยการให้เหยื่อแบกปึกกระดาษที่บรรจุได้ด้วยตัวอักษรและหุ้มปก ปึกเอกสารเหล่านี้ เหยื่อจะถูกบังคับให้ต้องแบกไปมาจนกว่าจะหลังโก่งหรือหลังค่อม และเหยื่อจะต้องแบกปึกเอกสารเหล่านี้ไปมาในศูนย์การทรมาน หรือที่เรียกกันว่า "ห้องเรียน"นั่นเอง บางครั้งห้องเรียนเอง ก็เป็นจุดที่เหยื่อจะต้องมารับเอกสารไปแบกหามเพิ่มเติม
ทำลายสายตา
เหยื่อจะถูกบังคับให้แบกเอกสารเหล่านั้นกลับบ้านเพื่ออ่าน ความยาวของเนื้อหานั้น เป็นสัดส่วนแปรผันตรงกับความน่าเบื่อของมัน แต่แปรผกผันกับกระโยชน์ที่นำไปใช้จริงได้ สำหรับเนื้อให้ในเอกสารนั้น ได้รับการออกแบบมาอย่างดี โดยผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยาการทรมาน เพื่อให้เหยื่อได้รับความทรมานอย่างแสนสาหัสจากการอ่านเอกสารนั้นๆ อีกทั้งยังสามารถสะกดจิตให้เหยื่อง่วงนอน และหลับไปได้
สำหรับเหยื่อบางรายที่โชคร้าย โดนทรมานด้วยวิธีนี้อย่างหนัก อาจจะเคราะห์ร้าย ถึงกับพิการทางสายตาได้
ทำลายข้อมือ
หลังจากเหยื่อผ่านการทรมานด้วยการอ่านมาแล้ว เหยื่อจะถูกบังคับให้ทำการเขียนข้อความลงในสมุด และเหยื่อจะต้องเขียนไปเรื่อยๆ จนกว่าข้อมือของเหยื่อจะไม่สามารถขยับได้อีกต่อไป ซึ่งเมื่อถึงจุดนี้ อาจจะมองว่าการทรมานนั้นจบไปแล้ว แต่ไม่ใช่ เมื่อเวลาผ่านไป ๕ นาที หรือเมื่อข้อมือของเหยื่อเริ่มสามารถขยับได้อีกครั้ง การทรมานก็จะเริ่มต้นอีกครั้งหนึ่ง
โดยทั่วไปแล้ว ยิ่งปริมาณการเขียนที่เหยื่อจะต้องเขียนนั้น มักจะแปรผกผันกับความยากของงาน แต่ในบางครั้ง การทรมานด้วยวิธีนี้ จะสามารถทำให้โหดร้ายได้ ด้วยการให้การบ้านที่ทั้งต้องเขียนเป็นจำนวนมหาศาลแล้ว ยังผสมด้วยความยากเย็นแสนเข็ญอีกด้วย
ทำลายระบบเศรษฐศาสตร์ครอบครัว
บางครั้ง การบ้านจะถูกให้ในรูปแบบของ "รายงาน" หรือ "งานประดิษฐ์" ประเภทต่างๆตามแต่ที่จะสั่งให้เหยื่อทำ ซึ่งงานประเภทรายงานนั้น จะต้องมีการทำปก ซึ่งทำให้ต้องเกิดการเสียค่าใช้จ่าย และบางครั้งในการทำรายงาน เหยื่อจะได้รับคำสั่งให้ทำรายงานที่เน้นปกสวยงาม ดูดี เพื่อที่ผู้ลงทัณฑ์จะได้นำไปใช้ประดับถังขยะได้ ซึ่งก่อให้เกิดค่าใช้จ่ายแก่ผู้อุปถัมภ์เหยื่อ
ส่วนงานประดิษฐ์นั้น จะก่อให้เกิดค่าใช้จ่ายแก่เหยื่อมากขึ้นไปอีกเป็นเท่าทวี
การสั่งการบ้านที่สิ้นเปลืองทรัพยากรนี้ มีจุดประสงค์เพื่อให้เกิดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจของประเทศ บีบบังคับให้ครอบครัวของเหยื่อต้องเสียเงินจับจ่าย
การทรมานด้วยวิธีนี้อาจจะส่งผลให้เกิดโรคทรัพย์จางได้
รับข้อมูลจาก "http://th.uncyclopedia.info/wiki/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%9A%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99"
จับกังแบกหาม
เป็นการทรมานเหยื่อ ด้วยการให้เหยื่อแบกปึกกระดาษที่บรรจุได้ด้วยตัวอักษรและหุ้มปก ปึกเอกสารเหล่านี้ เหยื่อจะถูกบังคับให้ต้องแบกไปมาจนกว่าจะหลังโก่งหรือหลังค่อม และเหยื่อจะต้องแบกปึกเอกสารเหล่านี้ไปมาในศูนย์การทรมาน หรือที่เรียกกันว่า "ห้องเรียน"นั่นเอง บางครั้งห้องเรียนเอง ก็เป็นจุดที่เหยื่อจะต้องมารับเอกสารไปแบกหามเพิ่มเติม
ทำลายสายตา
เหยื่อจะถูกบังคับให้แบกเอกสารเหล่านั้นกลับบ้านเพื่ออ่าน ความยาวของเนื้อหานั้น เป็นสัดส่วนแปรผันตรงกับความน่าเบื่อของมัน แต่แปรผกผันกับกระโยชน์ที่นำไปใช้จริงได้ สำหรับเนื้อให้ในเอกสารนั้น ได้รับการออกแบบมาอย่างดี โดยผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยาการทรมาน เพื่อให้เหยื่อได้รับความทรมานอย่างแสนสาหัสจากการอ่านเอกสารนั้นๆ อีกทั้งยังสามารถสะกดจิตให้เหยื่อง่วงนอน และหลับไปได้
สำหรับเหยื่อบางรายที่โชคร้าย โดนทรมานด้วยวิธีนี้อย่างหนัก อาจจะเคราะห์ร้าย ถึงกับพิการทางสายตาได้
ทำลายข้อมือ
หลังจากเหยื่อผ่านการทรมานด้วยการอ่านมาแล้ว เหยื่อจะถูกบังคับให้ทำการเขียนข้อความลงในสมุด และเหยื่อจะต้องเขียนไปเรื่อยๆ จนกว่าข้อมือของเหยื่อจะไม่สามารถขยับได้อีกต่อไป ซึ่งเมื่อถึงจุดนี้ อาจจะมองว่าการทรมานนั้นจบไปแล้ว แต่ไม่ใช่ เมื่อเวลาผ่านไป ๕ นาที หรือเมื่อข้อมือของเหยื่อเริ่มสามารถขยับได้อีกครั้ง การทรมานก็จะเริ่มต้นอีกครั้งหนึ่ง
โดยทั่วไปแล้ว ยิ่งปริมาณการเขียนที่เหยื่อจะต้องเขียนนั้น มักจะแปรผกผันกับความยากของงาน แต่ในบางครั้ง การทรมานด้วยวิธีนี้ จะสามารถทำให้โหดร้ายได้ ด้วยการให้การบ้านที่ทั้งต้องเขียนเป็นจำนวนมหาศาลแล้ว ยังผสมด้วยความยากเย็นแสนเข็ญอีกด้วย
ทำลายระบบเศรษฐศาสตร์ครอบครัว
บางครั้ง การบ้านจะถูกให้ในรูปแบบของ "รายงาน" หรือ "งานประดิษฐ์" ประเภทต่างๆตามแต่ที่จะสั่งให้เหยื่อทำ ซึ่งงานประเภทรายงานนั้น จะต้องมีการทำปก ซึ่งทำให้ต้องเกิดการเสียค่าใช้จ่าย และบางครั้งในการทำรายงาน เหยื่อจะได้รับคำสั่งให้ทำรายงานที่เน้นปกสวยงาม ดูดี เพื่อที่ผู้ลงทัณฑ์จะได้นำไปใช้ประดับถังขยะได้ ซึ่งก่อให้เกิดค่าใช้จ่ายแก่ผู้อุปถัมภ์เหยื่อ
ส่วนงานประดิษฐ์นั้น จะก่อให้เกิดค่าใช้จ่ายแก่เหยื่อมากขึ้นไปอีกเป็นเท่าทวี
การสั่งการบ้านที่สิ้นเปลืองทรัพยากรนี้ มีจุดประสงค์เพื่อให้เกิดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจของประเทศ บีบบังคับให้ครอบครัวของเหยื่อต้องเสียเงินจับจ่าย
การทรมานด้วยวิธีนี้อาจจะส่งผลให้เกิดโรคทรัพย์จางได้
รับข้อมูลจาก "http://th.uncyclopedia.info/wiki/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%9A%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99"